ล้านบาท7 เพิ่มขึ นร้อยละ 0.3 ทั งนี รัฐวิสาหกิจที่มีการเบิกจ่ายงบลงทุนสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ บริษัท ปตท. สภาคณาจารย์สภาพนักงานศูนย์ศึกษาการพัฒนาที่ยั่งยืนและเศรษฐกิจพอเพียงศูนย์สาธารณประโยชน์และประชาสังคมศูนย์นวัตกรรมทางธุรกิจศูนย์ปัญญาทัศน์เพื่อการจัดการศูนย์พัฒนาและบริการด้านภาษาและการสื่อสารศูนย์ประสานคณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์ศูนย์คลังปัญญาและสารสนเทศสหกรณ์ออมทรัพย์ สพบ. ทั้ง…
แม้นักท่องเที่ยวจีนจะยังคงฟื้นตัวได้ช้ากว่าที่คาด แต่ไทยยังคงเป็นจุดหมายยอดนิยมของชาวจีน และหวังที่จะเห็นการฟื้นตัวปีนี้ เราเห็นว่า ตัวเลขประมาณการต่างๆ จากหลายสำนักฯ ที่ออกมา ก็เป็นเพียงการคาดเดาที่เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่า จะมีวิกฤติใหม่ๆ อะไร ผุดขึ้นมาแบบที่เราไม่ทันตั้งรับอีกหรือไม่ เป็นโจทย์สำคัญที่รัฐบาลต้องมองสถานการณ์ให้ขาด เตรียมกระสุนรับมือไว้ให้ดี… นี่คือ “การประมาณการ GDP ไทย” หักปากกาเซียนมาตั้งแต่ปี 2566 ที่คาดว่าจะขยายตัว three.5% “ด้วยสงครามอิสราเอล–ฮามาส” มีผลต่อการส่งออกซึมตัวกระทบเศรษฐกิจไทยหดลงเหลือ 2.5% ดังนั้นในปี 2567 “ต้องลุ้นโครงการดิจิทัลวอลเล็ต” ถ้าเกิดขึ้นได้จริงจะมีส่วนดัน GDP โตเพิ่มขึ้น 1–1.3%ได้อีก… โดยการที่ไทยรับแรงงานลาวเข้ามาทำงานในภาคส่วนงานที่คนไทยไม่นิยมทำงาน ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มผลิตและจำหน่ายอาหาร งานบริการ งานบ้าน และการเกษตรนั้น อาจเป็ยนการช่วยลดต้นทุนการผลิตและบริการ ทำให้ธุรกิจสามารถแข่งขันในตลาดได้ดีขึ้น และเติมเต็มช่องว่างในตลาดแรงงานไทยที่ไม่อยากทำงานในบางประเภทได้. หลังจากนั้นอีก 2 วัน กระทรวงกลาโหมอิสราเอลสั่ง “ปิดล้อม” ฉนวนกาซาอย่างสมบูรณ์ พร้อมหยุดส่ง “พลังงานไฟฟ้า อาหาร และเชื้อเพลิง” ทั้งหมด ท่ามกลางปฏิบัติการโจมตีเป้าหมายกลุ่มฮามาสในกาซาที่ยังดำเนินอย่างต่อเนื่อง โดยอิสราเอลเปิดการโจมตีทางอากาศและระดมทิ้งระเบิดอย่างหนักเพื่อตอบโต้ฮามาสเป็นเวลาถึง three สัปดาห์ ก่อนเริ่มขยายปฏิบัติการภาคพื้นดินเข้าไปในฉนวนกาซาเมื่อวันที่ 28 ต.ค. นี่คือคำทำนายตามหลักโหราศาสตร์ชี้ “สถานการณ์การเมืองไทย 2567” แล้วเชื่อว่าหากทุกคนพร้อมใจกัน “กระทำเพื่อประโยชน์สังคมและประเทศชาติ” ก็จะสามารถนำพาบ้านเมืองไปสู่อนาคตที่ดีได้. ซึ่งอาจนำไปสู่การสะสมปัญหาความไม่สมดุลของเศรษฐกิจในอีกรูปแบบหนึ่ง ดังนั้น ทุกภาคส่วนควรร่วมกันช่วยเสริมสร้างสมดุลใหม่ให้กับเศรษฐกิจไทย เพื่อบรรเทาผลกระทบจากข้อจำกัดเชิงโครงสร้าง ต่อระดับศักยภาพทางเศรษฐกิจของไทยในอนาคต.
สรุปแล้ว เศรษฐกิจไทยในปี 2567 มีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นจากปีก่อน แต่ก็ยังเต็มไปด้วยความท้าทายจากปัจจัยลบนอกประเทศที่นับวันจะยิ่งซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงเร็วขึ้น รวมถึงข้อจำกัดจากปัญหาเชิงโครงสร้างภายในประเทศที่ยังเป็นอุปสรรคในการเติบโตอย่างยั่งยืน โจทย์สำคัญคือ New Engine of Growth ที่จะยกระดับเศรษฐกิจไทยคืออะไร คงต้องหาคำตอบกันต่อไป… ทั้งนี้ ธปท.คาดการณ์ด้วยว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะมีแนวโน้มปรับตัวลดลง โดยในปี 66 ขยายตัวเพิ่มขึ้น 3% กลับเข้ามาสู่กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อในไตรมาสที่ three ของปี 66 และจะลดลงต่อเนื่องในปี sixty seven ซึ่ง ธปท.คาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้น 2.1% โดยราคาน้ำมันดิบดูไบมีแนวโน้มลดลงในปี 2567 จากปริมาณการผลิตกลุ่มนอน-โอเปกที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และการส่งออกน้ำมันของรัสเซียที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน หลังปรับเปลี่ยนเส้นทางการค้าเพื่อลดผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตร. รวมทั้งพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปหลังโควิดยังช่วยสนับสนุนธุรกิจอีคอมเมิร์ซ การขนส่ง และอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมที่น่ากังวลคือรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในจากการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ที่ยืดเยื้อ ราคาวัตถุดิบสูง และแนวโน้มการใช้รถยนต์ไฟฟ้า นอกจากนี้อุตสาหกรรมเหล็กยังประสบปัญหาราคาต้นทุนสูง ซึ่งทั้งการบริโภคและการนำเข้าของผลิตภัณฑ์เหล็กสำเร็จรูปต่างหดตัวลง 23% ในตุลาคม 2565 (YoY) ตามข้อมูลจากสลท.
มีการคาดหมายกันว่า รัฐบาลเศรษฐาน่าจะมีการปรับ ครม.ครั้งแรกช่วง พ.ค.-มิ.ย.ปีหน้า เพราะบุคลิกการเมืองของ ทักษิณ ชินวัตร ที่อยู่เบื้องหลังการตัดสินใจทั้งหมดของรัฐบาล จะนิยมปรับ ครม.ภายในช่วง 6-8 เดือน ซึ่งรัฐบาลเศรษฐา เมื่อไปถึงช่วง พ.ค.2567 ก็ถือว่าครบ eight เดือนแล้ว ทำให้มีโอกาสสูงที่จะมีการปรับ ครม. ต่อมา “อุปราคาเกิดราศีมีน 2 ครั้งในธาตุน้ำ” บางช่วงมีฝนตกมากจนเกิดอุทกภัย มีการจมน้ำตาย อุบัติเหตุการท่องเที่ยวทางน้ำ ความยุ่งยากอาชีพที่เกี่ยวกับน้ำหรือของเหลว และภัยจากการเจ็บป่วยโรคระบาดอย่าง สุริยุปราคาเต็มดวงวันที่ 8 เม.ย.พาดผ่านราหูในดวงเมือง ตัวแทนผู้ปกครองราศีกุมภ์จะมีความยุ่งยากในรัฐสภา สส. การเมืองไทยปีมังกรทอง 2567 เหลียวหลังแลหน้า ประเมินสถานการณ์รอบทิศแล้ว ชี้ชัดๆ ได้ว่าร้อนแรง เป็นมังกรทองพ่นไฟให้ได้เห็นกัน. ไล่ตั้งแต่ คดีการถือครองหุ้นของศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีต รมว.คมนาคม ที่ปัจจุบันเป็นเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ที่จะอ่านคำวินิจฉัยวันที่ 17 ม.ค.2567 ตามด้วยคดีหุ้นสื่อไอทีวีของพิธา ที่นัดอ่านคำวินิจฉัยวันที่ 24 ม.ค.